ผู้ช่วยฯ ต้อนรับ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย หารือกระชับความร่วมมือด้านแรงงาน
วันที่ 24 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายฟาน จี๊ ทัญ (Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย และคณะ เข้าพบหารือข้อราชการ การปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU) และร่างบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน (Agreement) ระหว่างไทย – เวียดนาม โดยมี นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ประจาสานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจากระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายสุรชัย กล่าวว่า ในโอกาสที่ท่านทูตฯ และคณะ ได้มาเยือนกระทรวงแรงงานในวันนี้ ผมและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านแรงงาน รวมถึงการดำเนินการใดๆ เพื่อให้สอดคล้องตามแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งได้ทราบว่าปัจจุบันไทยและเวียดนามอยู่ระหว่างการหารือร่างเอ็มโอยู และข้อตกลงฉบับใหม่โดยจะมีการขยายขอบเขตสาขาอาชีพที่คนเวียดนามจะสามารถมาทำงานในประเทศไทยได้ โดยกระทรวงแรงงานจะหารือในรายละเอียดของข้อบทต่าง ๆ ภายใต้ ร่างเอ็มโอยู และข้อตกลงกับทางกระทรวงแรงงาน ทุพพลภาพและสวัสดิการสังคมของเวียดนามต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ยังได้ขอความร่วมมือเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ช่วยประชาสัมพันธ์ให้แรงงานเวียดนามได้ทราบว่า ภายใต้มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ที่ได้รับอนุญาตทางานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 และได้ยื่นคำขอต่อใบอนุญาตทำงานภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว มาดำเนินการยื่นเอกสารหลักฐานตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้ครบถ้วน ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ซึ่งแรงงานจะได้รับสิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งกรณีสำหรับแรงงานที่ได้ขออนุมัติตรวจลงตราภายหลังวันที่ 1 สิงหาคม 2565 อาจจะต้องมีการขอต่อใบอนุญาตทำงานในปี 2567 ด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมให้มีการจ้างงานที่ถูกต้องและเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย รวมทั้ง แรงงานจะได้รับสิทธิและการคุ้มครองให้เป็นไปตามกฎหมายประเทศไทยและมาตรฐานสากล
“กระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญ และพร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านแรงงานในทุกมิติ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และสร้างเสริมความร่วมมือต่างๆ รวมถึงประสานประโยชน์ร่วมกันด้านแรงงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยภาพรวมของทั้งสองฝ่าย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากฝ่ายเวียดนามต่อไปในอนาคต” นายสุรชัยฯ กล่าวในท้ายที่สุด